This site has limited support for your browser. We recommend switching to Edge, Chrome, Safari, or Firefox.

Customized ring size all our rings will be customized just for you

ไพลินคืออะไรและการเลือกซื้อ

ไพลิน (Blue Sapphire) คือ Corundum (คอรันดัม) มีทุกสียกเว้นสีแดง หรือเรียกว่าแซฟไฟร์ สีของ Sapphire (แซฟไฟร์) นั้น สามารถนํามาใช้เรียกเป็นชื่อของอัญมณีชนิดนั้นๆได้ เช่น

Yellow Sapphire แซฟไฟร์สีเหลือง นั้นเรียกว่า บุษราคัม

บุษราคัมหรือพลอยแซฟไฟร์สีเหลืองพลอยแซฟไฟร์ที่เป็นที่นิยมเช่นกัน หากสีสวยมีประกายแวววาวดี ใสสะอาด ไร้มลทิน (โดยปกติ บุษราคัมจัดเป็นแซฟไฟร์ที่มีมลทินน้อยที่สุด เมื่อ เปรียบเทียบกับไพลิน และทับทิม)จะมีราคาสูงเท่าๆกับไพลิน หรืออาจสูงกว่าเสียอีก เนื่องจากค่อนข้างจะหาสวยได้ยากกว่าไพลิน สีที่สวยของบุษราคัมคือสีเหลืองสดใส ไม่มีสีน้ําตาล ส้ม เขียวปน มีโทนสีมืดสว่างปานกลาง ความเข้มของสีเหลืองไม่อ่อนมาก ส่วนใหญ่พลอยบุษราคัมจากจันทบุรี มักจะมีสีน้ําตาล ปนทําให้ได้พลอยสีเหลืองเหล้าแม่โขง ซึ่งเป็นสีที่ นิยมในหมู่คนไทย จึงทําให้มีราคาแพงสําหรับพลอย บุษราคัมสีเหลืองอมส้ม บางทีก็อมน้ําตาล บางทีก็ได้ สีเหลืองทอง ซึ่งราคาแพงเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมี พลอยบุษราคัมศรีลังกาส่วนที่เผาไม่ออกคือ ไม่ได้สี เหลืองสวย แต่ได้เป็นสีขาวใส หรือขาวมีเหลืองปนนิด หน่อย ซึ่งมีการนําเอาพลอยส่วนนี้ไปอาบรังสี เพื่อ ให้มีสีเข้มขึ้น แต่สีเหล่านี้จะไม่คงทนถาวร วิธีแยก ระหว่างพลอยซีลอนเผาออกได้สีเหลืองสวยงาม กับ พลอยอาบรังสี ทําได้โดยใช้ไฟ 100 วัตต์ ส่องที่พลอยระยะห่างประมาณ 1 นิ้ว เวลาประมาณ 15 นาที ถ้าเป็นพลอยซีลอนเผา สีของพลอยจะเข้มขึ้น เป็นสีน้ําตาลเข้ม และจะกลับเป็นสีเดิม เมื่อปล่อยให้ เย็นลง ส่วนพลอยบุษราคัมสีเหลืองอาบรังสี สีจะจาง ลงจนซีด แต่ถ้าเป็นพลอยบุษราคัมเผาไม่เผาของ จันทบุรีและออสเตรเลียจะไม่มีผลกระทบเลย นอกจาก นี้ให้ระวังพลอยสังเคราะห์ เพราะจัดว่าตรวจดูยาก เนื่องจากพลอยบุษราคัมแท้ก็จะไม่ค่อยมีมลทินเด่นชัด แต่ก็สามารถพลิกค้นหามลทินได้ ส่วนพลอยบุษราคัม สังเคราะห์ก็จะใส ไร้มลทิน จะมองเห็นเส้นโค้งซึ่งหา ยากอยู่ในเนื้อพลอย แต่เหลี่ยมพลอยจะไม่คมชัด เหมือนของแท้ ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจส่งให้ผู้ชํานาญตรวจ บุษราคม 

ดูก่อน ราคาของพลอยบุษราคัม ถ้าเป็นพลอยจาก จันทบุรีสีสวย ราคาก็จะแพงกว่าพลอยบุษราคัม ซีลอนเท่าตัว (Rock-Hut.com นิตยสารทางอินเตอร์เน็ต)

เพชรดีมณีแดง เขียวใสแสงมรกต 

เหลืองใสสดบุษราคัม แดงแก่กําโกเมนเอก

สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารหมอกมัว 

แสงสลัวเพทาย สังวาลย์สายไพทูรย์ 

Green Sapphire แซฟไฟร์สีเขียว (เขียวส่อง, เขียวมรกต)

Blue Sapphire แซฟไฟร์สีน้ําเงิน (ไพลิน)

Padparadscha แซฟไฟร์สีส้มอมชมพู (พัดพารัดชา)

สีต่าง ๆ ของแซฟไพร์เกิดจากแร่ธาตุชนิดต่างๆ สีน้ําเงิน ของไพลินเกิดจากธาตุเหล็ก และไททาเนียม สีของ ไพลินที่ถือว่าสวยงามที่สุดคือสีน้ําเงินเข้มสด และมีสี ม่วงอมเล็กน้อย มีความมืดสว่างปานกลาง ไพลินจัด เป็นแซฟไฟร์ที่ได้รับความนิยมมาก ทําให้ค่อนข้างมี ราคาสูง รองลงมาเป็นบุษราคัมเขียวส่อง ส่วนชนิด แซฟไฟร์อื่นๆ จัดเป็นแร่รัตนชาติสําหรับการสะสมก็ว่าได้ แต่ก็หาไม่ได้ง่ายนัก และอาจมีราคาแพงได้เช่นกัน เช่น พัดพารัดชา แซฟไฟร์สีม่วง สีชมพู เป็นต้น และ ก็เช่นเดียวกันกับรัตนชาติชนิดอื่นๆ ที่คุณภาพ คุณค่า ราคาขึ้นอยู่กับสี ความสดใสไร้ตําหนิ การเจียระไน และ น้ําหนัก แหล่งผลิตแซฟไฟร์ที่สําคัญของโลกโดย เฉพาะไพลินในปัจจุบันนี้ได้แก่ออสเตรเลีย ศรีลังกาไทย พม่า กัมพูชา แทนซาเนีย 

ไพลิน หรือ Blue Sapphire นั้นสามารถแบ่งออกเป็นระดับทางการค้าได้ 5 ระดับ 

  1. ไพลินแคชเมียร์ หมายถึงไพลินที่มีสีเหมือน ไพลินที่มาจากแหล่งแคชเมียร์ ประเทศอินเดียซึ่งจัด เป็นแหล่งที่มีไพลินสวยงามเป็นหนึ่งในอดีต แต่ใน 

ปัจจุบันนี้ไม่มีการผลิตจากแหล่งนี้แล้ว แต่ยังคงใช้ เป็นชื่อเรียกไพลินจากแหล่งต่างๆ ที่มีสีแบบนี้ว่า “แคชเมียร์แซฟไฟร์"สีที่สวยงามของแคชเมียร์แซฟไฟร์ คือ สีน้ําเงินอมม่วงเล็กน้อย คล้ายกับสีดอกอัญชัน (Cornflower blue) และมองดูมีเนื้อนุ่มนวลเหมือน 

ผ้ากํามะหยี่ มีโทนสีมืดปานกลาง แต่พลอยชนิดนี้จะ ไม่โปร่งใสเลยทีเดียว จึงมีผลกระทบต่อความสุกใส ประกายแวววาวของพลอยทําให้พลอยดูเหงาซึมเซา ที่จริงแล้วไพลินระดับนี้นานๆ ครั้งจะพบมีขายในท้อง ตลาด ไพลินจากแหล่งศรีลังกา ไทย พม่า เขมร ก็ อาจมีสีนี้ได้เช่นกัน 

  1. ไพลินพม่า หมายถึงไพลินที่มีสีเหมือนไพลิน จากแหล่งพม่า ซึ่งจัดว่าสวยงามมากเช่นกัน คุณภาพ ไพลินระดับพม่านี้ ใช้เป็นระดับคุณภาพในการซื้อขาย ในอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ สีที่สวยงามของไพลินพม่าคือ สีน้ําเงินเข้มอมม่วงเล็กน้อย มีโทนสีมีดปานกลาง เช่น เดียวกับไพลินระดับแคชเมียร์ แต่ไม่มีความนุ่มนวล เหมือนกํามะหยี่ สีน้ําเงินเข้มที่เรียกว่า สีรอแยลบูล (Royal blue) สีน้ําเงินของไพลินระดับพม่านี้จัดเป็น สีน้ําเงินที่ขรึม แต่จะขาดความสุกใส ประกายมีชีวิต ชีวาไปเล็กน้อย ไพลินจากแหล่งไทย ศรีลังกา เขมร ก็มีสีแบบนี้ได้เช่นกัน ข้อแตกต่างขอไพลินแคชเมียร์ และไพลินพม่าคือ ไพลินพม่าไม่มีลักษณะเนื้อนุ่มนวล แบบกํามะหยี่เหมือนไพลินแคชเมียร์ 
  2. ไพลินไทย จัดเป็นไพลินระดับค่อนข้างต่ํา โดย เฉพาะในอเมริกาถือว่าไพลินที่มีสีเหมือนไพลินไทย จะมีราคาต่ํา สีที่ว่านี้คือ สีน้ําเงินดํามืดเหมือนน้ําหมึก 

สีค่อนข้างมืด ทําให้พลอยดูดํามืดทั้งเม็ด บางครั้งก็มี สีเขียวปน แต่บางครั้งอาจมีลักษณะเนื้อเหมือน กํามะหยีปนบ้าง สําหรับไพลินไทยจากแหล่งกาญจนบุรี ส่วนใหญ่จะมีสีน้ําเงินเข้มและมีความขุ่นขาวเป็น ตําหนิปนอยู่ตามโซนสี ทําให้พลอยดูมีประกายวาว มากขึ้น แต่ถ้าลักษณะความขุ่นขาวมีมากตลอดทั่ว ทั้งเม็ดพลอย จะทําให้พลอยนั้นดูไร้ประกาย หรือ ด้านมัว ไพลินจากแหล่งกาญจนบุรีมีลักษณะโดย ทั่วไปคล้ายไพลินศรีลังกา โดยเฉพาะมีโซนสีหรือ แถบสีที่เด่นชัด 

  1. ไพลินซีลอน จัดเป็นสีน้ําเงินสวย มีประกาย มีชีวิตชีวา เป็นสีน้ําเงินที่มีความเข้มน้อยกว่าไพลิน พม่า ไพลินซีลอนมีโทนสีอ่อนกว่าไพลินพม่าด้วย ทําให้ดูสุกใสมีประกายกว่า ที่พบสวยเหมือนไพลิน แคชเมียร์ก็มี ไพลินซีลอนได้จากพลอยก้อนสีขาวขุ่น เหมือนน้ํานม มีจุดสีน้ําเงินอยู่ในเนื้อ นําไปเผาจะให้ พลอยสีน้ําเงินทั้งสวยและไม่สวย ที่สวยก็นํามาขาย เป็นไพลินซีลอน ส่วนที่เผาแล้วไม่สวย ก็จะได้เป็นสี ฟ้าอ่อนใส หรือขาวไปเลยซึ่งไม่ค่อยมีราคานัก เรียก ตามภาษาชาวบ้านว่าไพลินซีลอนเผาไม่ออก 
  2. ไพลินออสเตรเลีย มีสีน้ําเงินมืดสนิทกว่า ไพลินไทย หรือคล้ายไพลินไทย แต่ไม่มีลักษณะเนื้อ กํามะหยี่ปนอยู่เลย อาจมีสีเขียวปนบ้าง 

จากที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็นระดับทางการค้า ของไพลินซึ่งก็ไม่มีสีอะไรที่แน่นอนประจําแหล่งเลย เพียงแต่เคยพบพลอยสีงามน้ําหนึ่งในแหล่งนั้นตามที่กล่าวข้างต้นก็จัดให้ชื่อตามระดับคุณภาพทางการค้าตามชื่อแหล่งนั้น กล่าวคือใช้ชื่อแหล่งเป็นพื้นฐาน ของคุณภาพสีนั่นเอง โดยสรุปแล้วระดับ ค้านั้นใช้สีเป็นตัวประกอบที่สําคัญที่สุด มิได้หมายถึงแหล่งเลย นอกจากนี้ความนิยมชมชอบสีในแต่ละเชื้อชาติจะแตกต่างกัน แต่สีซึ่งเป็นสีคุณภาพดีที่สุดคือ สีน้ําเงินเข้มอมม่วงเล็กน้อย สีโทนปานกลาง ไม่มืดมาก และไม่สว่างมากเกินไป บวกกับความสุกใสมีประกายมีชีวิตชีวานั่นเอง 

การพิจารณาเลือกซื้อไพลิน 

  1. สีเป็นสําคัญ ตามมาด้วยมลทินการเจียระไน และขนาด ให้คํานึงเปรียบเทียบถึงความสัมพันธ์ของ ตัวประกอบเหล่านี้ว่าเหมาะสมต่อความสวยงามหรือ ไม่อย่างไร แต่ถ้าองค์ประกอบเหล่านี้มีครบ ราคาก็จะ แพง ไพลินที่มีสีสวยที่สุดคือ สีน้ําเงินอมม่วงเล็กน้อย โทนสีไม่มีดมากปานกลางมีเนื้อกํามะหยี่ มีความสุกใส มีประกายแวววาวดี ควรดูความสม่ําเสมอของสีด้วย สีที่ไม่สม่ําเสมอในเนื้อพลอยจะทําให้ราคาตกลงไพลิน ที่มีโทนสีมืด สีมีความเข้มมากเกินไปจนมองดูดํามืด และไพลินที่มีโทนสีสว่างอ่อนเกินไปจะสวยน้อยและมี ราคาไม่แพง ดังนั้นถ้ามีเงินไม่มากนักควรเลือกไพลิน โทนสีค่อนข้างสว่าง ความเข้มของสีกําลังดีเพราะราคา จะถูกลง แถมยังทําให้มองดูสวยภายใต้แสงไฟ เนื่อง จากมีความสุกใสกว่าไพลินที่มีโทนสีมืดคล้ํา แต่อย่า เลือกไพลินโทนสีสว่างโล่งเกินไป หรือความเข้มของ สน้อยเกินไป เพราะจะมองดูไม่สวยสง่าเหมือนไพลิน ที่มีความเข้มของสีมากกว่า กล่าวคือให้มีความเข้ม ของสีน้ําเงินอยู่และมีโทนสีสว่างบ้างมิใช่เป็นสีน้ําเงิน 

อ่อนจนเป็นสีฟ้า แถมมีโทนสีสว่างด้วย 

  1. มลทิน ตําหนิ เมื่อสังเกตดูสีจนเป็นที่พอใจ แล้วให้ดูว่า ไพลินนั้นสะอาด เมื่อมองด้วยตาเปล่าแล้ว มองเห็นมลทินตําหนิภายในหรือไม่ ถ้ามองไม่เห็น มลทินด้วยตาเปล่าก็ถือว่าใช้ได้ ไพลินที่มีมลทินอยู่ ภายในเนื้อเป็นข้อบ่งชี้ว่าเป็นของธรรมชาติ แต่ต้องดู แยกให้ออกว่าเป็นมลทินธรรมชาติหรือมลทินสังเคราะห์ (ทําขึ้น) การดุมลทินมักจะต้องใช้แว่นขยาย 10 เท่า ขึ้นไป หรือกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งผู้ชํานาญเท่านั้นจึงจะ สามารถแยกออกจากกันได้ว่าเป็นมลทินธรรมชาติหรือ มลทินสังเคราะห์ ไพลินธรรมชาติที่ใสสะอาดไร้มลทิน จะหาได้ยากมาก ดังนั้นถ้าพบไพลินเช่นนี้อย่าได้วางใจ มีอยู่ 2 กรณี คืออาจจะเป็นมลทินขนาดเล็กๆ ซึ่งเป็น มลทินของแท้ ซ่อนตัวอยู่ภายในเนื้อพลอยจนมองไม่ เห็นด้วยตาเปล่า และมองเห็นแต่เส้นโค้งเป็นชิ้นบางๆ ซึ่งเป็นไพลินสังเคราะห์ก็ได้ ดังนั้นจึงไม่แนะนําให้ซื้อ ไพลินที่ใสสะอาดไร้มลทินเพราะหายากมากนั่นเอง ถึง แม้จะมีก็ราคาแพงมาก แถมอาจจะเจอเอาพลอย สังเคราะห์ด้วย ดังนั้นแทนที่จะจ่ายเงินเพื่อความสวย งาม กลับจ่ายเงินด้วยความไม่รู้ เพื่อความหายากซึ่ง ไม่ควรตําหนิมลทินที่ไม่ถึงกับบดบังความสวยงามหรือ ทําให้พลอยแตกร้าวก็ถือเป็นใช้ได้ ควรเลือกไพลินที่ มีความโปร่งใสหน่อย เพราะจะทําให้พลอยดูมีประกาย มีชีวิตชีวาขึ้น 
  2. การเจียระไน ไพลินที่มีการเจียระไนได้สัดส่วน ถูกต้อง สวยงาม พร้อมกับมีการเจียระไน โดยให้การ วางตัวของโต๊ะหน้าพลอย ที่จะให้ได้ไพลินสีสวยที่สุด คือ เจียระไนโดยให้โต๊ะหน้าพลอยวางตัวในทิศทางที่ จะให้สีน้ําเงินอมม่วงหรือน้ําเงิน ไม่ใช่น้ําเงินอมเขียว รูปร่างของหน้าพลอยถ้าเป็นกลมก็กลมสวย ไม่เบี้ยว ถ้าเป็นทรงไข่ก็ไข่สวย ไม่บิดเบี้ยว มีความสมมาตร 

มีขอบพลอยขนาดพอดี และมีขนาดก้นพลอยไม่ยาว หรือสั้นจนเกินไป และฝีมือประณีตในการเจียระไนจะ ดูได้จากลักษณะเหลี่ยมคมของแต่ละหน้านั้น มีความ คมชัดเรียบสวยงาม ไม่แตกขรุขระ แต่ละหน้าเหลี่ยม พลอยมีรูปร่างดี ไม่บิดเบี้ยวแตกต่างกัน ความสวยงาม ของไพลินจะลดน้อยลงมาก ถ้าขาดการเจียระไนที่ดี ดังนั้นควรจะพิจารณาดูอย่างง่ายๆ ว่า ไพลินที่ซื้อนั้น มีกันพลอยที่ได้ระยะพอดี ไม่ยาวหรือสั้นเกินไป จนดู แปลกตา ลักษณะกันพลอยและหน้าเหลี่ยมต่างๆ ไม่ บิดเบี้ยว มีความสมมาตรดี มีเหลี่ยมเจียระไนคม ชัดเจน ดีเป็นอันว่าใช้ได้ 

 

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อไพลิน 

  1. ให้ระวังพลอยสีน้ําเงิน สีฟ้า โดยที่คนส่วนใหญ่ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นไพลิน ทําให้ซื้อมาผิดๆ หรือไม่ก็ ซื้อมาในนามของไพลิน ราคาไพลิน แต่จะเป็นพลอย ชนิดอื่น เช่นอาจไปซื้อเอาเพทายสีฟ้า อะความารีน คาลซิโดนีสีฟ้า ทัวร์มาลีนสีน้ําเงิน เป็นต้น 
  2. ให้ระวังไพลินสังเคราะห์ เนื่องจากมีคุณสมบัติ ทางกายภาพ และทางแสงเหมือนกับของแท้หมด แถม ถ้าเป็นชนิดที่มีมลทินแล้ว มลทินนั้นยังดูคล้ายของแท้ เสียอีก สร้างความปวดหัวให้กับนักตรวจเพชรพลอย ไปตามๆ กัน ดังนั้นถ้าสงสัย ไม่แน่ใจ ส่งมาเข้าห้อง ตรวจสอบเพชรพลอยเสียก่อน 
  3. ให้ระวังไพลินเผาเคลือบสีผิว ซึ่งมักเป็น ไพลินสีอ่อน ใสไม่สวย นํามาเคลือบเผาย้อมสีที่ผิว ไพลินเหล่านี้จะมองเห็นความผิดปกติของสีกระจาย เป็นหย่อมๆ อยู่ในเนื้อพลอยหรือผิวพลอย 
  4. ให้ระวังไพลินประกบ อาจจะประกบระหว่าง ของแท้กับของแท้ เพื่อให้ไดขนาดใหญ่หรือ ประกบ ระหว่างไพลินธรรมชาติกับไพลินสังเคราะห์ โปรด สังเกตว่า มีแนวระนาบแบ่งชั้นพลอยอยู่หรือไม่ ที่ขอบ พลอยมีลักษณะของรอยต่อหรือไม่ มองพลอยจากด้านบนแล้ว ไม่ทะลุผ่านถึงก้นพลอยหรือไม่  
  5. ไพลินที่ผ่านกระบวนการเพิ่มคุณภาพ โดย ให้ความร้อนที่เรียกว่าพลอยเผานั้น ถือว่าเป็นเรื่อง ปกติเหมือนกับการนําพลอยมาเจียระไนนั่นเอง 
  6. สําหรับพลอยสาแหรกนั้น ส่วนใหญ่จะเป็น สีดําหรือสีน้ําเงินเทา ให้เลือกดูว่าดาวมีขาครบลักษณะดาวอยู่ตรงกลางพลอย และมีการเจียระไนได้สัดส่วนดี คือมีส่วนกันไม่หนาเกินไป (พลอยสาแหรกจะต้องเจียระไนเป็นหลังเบี้ย หรือหลังเต่าเท่านั้นเพื่อให้เกิดดาว

ควรชื่อไพลินแบบไหน? 

เมื่อเลือกได้สีที่ถูกใจแล้ว เช่น บางคนอาจชอบ สีน้ําเงินเข้มขรึม บางคนอาจชอบสีน้ําเงินอ่อนออกฟ้า บางคนชอบน้ําเงินอมม่วง บางคนชอบน้ําเงินอมเขียว จะเลือกสีไหนก็แล้วแต่ เพราะก็ทราบกันแล้วว่าสี คุณภาพที่ดีที่สุดคือสีอะไร แต่ให้พยายามเลือกไพลินที่ มีโทนสีค่อนข้างสว่าง แต่ก็มิใช่สว่างโล่งเกินไป เพราะ ราคาจะถูกลง แถมยังทําให้มองดูสวยภายใต้แสงไฟ เพราะมีความสุขใส มีประกายแวววาวดีกว่าไพลินที่มี โทนสีมืด แต่อย่าเลือกไพลินที่มีความเข้มสีน้อยเกิน ไป คือไพลินสีอ่อน เพราะจะมองดูไม่สวย ไม่ขรึมสง่า เหมือนไพลินที่มีความเข้มของสีสูงและขนาดก็ควรจะ เลือกขนาดต่ํากว่า 2 กะรัตลงมา เพราะขนาดใหญ่ เพิ่มกว่า 1 กะรัตขึ้นไป ราคาจะแพงขึ้นเป็นเท่าตัวใน คุณภาพเดียวกัน ไพลินขนาด 1 กะรัต สีสวยที่ขายอยู่ ในตลาด ใส ไร้มลทิน ราคาต่อกะรัตประมาณ 20,000 60,000 บาท ก็น่าจะเป็นคุณภาพที่เหมาะสมต่อการ เลือกซื้อหามาใช้ ไพลินคุณภาพต่ําแต่มีการซื้อขาย กันโดยเจียระไนเป็นขนาดเล็กๆ ทําแหวนราคาไม่แพง ราคาต่อกะรัตประมาณ 400-500 บาท เท่านั้น ไพลิน คุณภาพต่ํามากราคาต่อกะรัตเพียง 50-100 บาทเท่านั้น ยกเว้นไพลินสีสวยล้ําเลิศที่หนึ่ง ราคาต่อกะรัตประมาณ 100,000-150,000 บาท (ราคาจาก Gemworld Pricing Guide, Jewellers Directory 1991/1992)

Cart

No more products available for purchase

Your cart is currently empty.